วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ผู้เล่นในตำนาน
-เคนนี ดัลกลิช
-เอียน รัช
-ร็อบบี ฟาวเลอร์
-จอห์น บาร์นส์
-บ๊อบ เพสลีย์
-บิลลี ลิดเดลล์
-เอียน เซนต์จอห์น
-โรเจอร์ ฮันท์
-แกรม ซูเนสส์
-เควิน คีแกน
-สตีเวน เจอร์ราด
-บรู๊ซ กร๊อบเบลาร์
-ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์
-จอห์น อัลดริจ
-เจมี เร็ดแน็พ
-พอล อินซ์
-ไมเคิล โอเวน
-ฟิล นีล
-เจอร์ซี ดูเด๊ค
-ไนเจล คลัฟ
-ร็อบ โจนส์
-ปีเตอร์ ธอมป์สัน
-ซามี ฮูเปีย
-เอลิชชา สก๊อต
-ดาวิด แฟร์โคลห์
-เรย์ คลีเมนซ์
-คริส ลอว์เลอร์
-สตีฟ แม็คมาฮอน
-แซมมี ลี
-ดีทมาร์ ฮามันน์
-เอมลิน ฮิวจ์
-เจมี คาราเกอร์
-อลัน แฮนเซ่น
-ทอมมี สมิธ
-เฟร์นันโด ตอร์เรส
Click for use Graphics comment
เพลงประจำทีมลิเวอร์พูล
เพลง you'll never walk alone
When you walk through a storm
Hold your head up high
And don't be afraid of the dark
At the end of the storm
Is a golden sky
And the sweet silver song of a lark
Walk on through the wind
Walk on through the rain
Tho' your dreams be tossed and blown
Walk on, walk on
With hope in your heart
And you'll never walk alone
You'll never walk alone
คำแปล
ยามใดที่คุณได้เดินฝ่าพายุร้าย
จงภูมิใจในสิ่งที่คุณได้ฝ่าฝันจนผ่านพ้นมา
และอย่าได้หวาดกลัวกับความมืดมน
เมื่อพายุนั้นได้ผ่านพ้นไป
จะมีท้องฟ้าทอแสงสว่างสดใส
และมีท่วงทำนองอันแสนหวานที่ขับขานจากนกลาร์ค
ก้าวเดินต่อไปฝ่าสายลมแรง
ก้าวเดินต่อไปแม้สายฝนโหมกระหน่ำ
แม้ว่าความฝันของคุณจะถูกทำร้ายจนแทบสิ้นกำลัง
ก้าวเดินต่อไป ก้าวเดินต่อไป ด้วยความหวังเต็มเปี่ยมภายในใจ
และคุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย
คุณจะจะไม่มีวันเดินเดียวดาย
ก้าวเดินต่อไป ก้าวเดินต่อไป ด้วยความหวังเต็มเปี่ยมภายในใจ
และคุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย
คุณจะจะไม่มีวันเดินเดียวดาย
สต๊าฟ โค้ชทีมปัจจุบัน
ราฟาเอล เบนิเตซ /ผู้จัดการทีม
แซมมี ลี /ผู้ช่วยผู้จัดการทีม
เมาริซิโอ เปเลกริโญ/ โค้ชทีมหลัก
ซาวี วาเลโร /โค้ชผู้รักษาประตู
กอนซาโล โรดริเกซ /โค้ชความฟิต
พาโก เดอ มิกูเอล /โค้ชความฟิต
แกรี แอ๊บเลตต์/ ผู้จัดการทีมสำรอง
อังเกล วาเลส โค้ชทีมสำรอง / หัวหน้าการวิเคราห์ด้านเทคนิค
เดฟ แมคโดนัฟ /นักวิเคราะห์ด้านเทคนิค
เอดูอาร์โด มาเซีย /หัวหน้าหน่วยแมวมอง
ไมค์ แมคกลินน์ /ผู้ช่วยหน่วยแมวมอง
มาร์ก วอลเลอร์ /แพทย์
ร็อบ ไพรซ์ /หัวหน้าผู้ดูแลสุขภาพนักเตะ
หลุยส์ ฟอเซตต์ /ผู้ดูแลสุขภาพนักเตะ
วิคเตอร์ ซาลินาส/ ผู้ดูแลสุขภาพนักเตะ
คริส มอร์แกน /ผู้ดูแลสุขภาพนักเตะ
พอล สมอล /หมอนวด
เกรแฮม คาร์เตอร์ /ผู้จัดการชุดแข่ง
จอห์น ไรท์ /เจ้าหน้าที่ชุดแข่ง
สิ่งที่ขาดหายของหงส์แดง
หลังจากฤดูกาลนี้ได้เร่มเปิดฉากกันไปแล้ว จะเห็นว่าหลายทีมยังคงมีเรื่องให้ต้องปรับปรุงกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอาร์เซนอลที่นักเตะพลัดกันเจ็บเป็นว่าเล่น หรือปัญหาการทำประตูของสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งเมืองลิเวอร์พูล ที่ทำประตูรวมกันได้เท่ากับวีแกน (ทีมที่ก่อนฤดูกาลเป็นเต็ง 1 ที่จะตกชั้น) หรือหลายๆทีมท้ายตารางที่คงต้องมีการปรับเปลื่ยนเพื่อให้ดีขึ้น แต่ในที่นี้จะของพูดถึงแชมป์ยุโรปล่าสุด ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูลเปิดฉากในช่วงปรีซีซั่นได้เป็นอย่างดี ยิงประตูได้มากมาย แต่แล้วพอเอาเข้าจริงตอนนี้กลับมีปัญหาเรื่องการทำประตู ถึงแม้ว่าจะมีศูนย์หน้ามีระดับหลายคน แต่อาจเป็นเพราะแท็คติกของทีมที่ชอบใช้ระบบ 4-5-1 ทำให้กองหน้าค่อนข้างโดดเดี่ยวไม่สามารถผลิตประตูได้ และทีมก็ไม่มีตำแหน่งหน้าต่ำดีๆที่จะมาช่วยเหลือ จะเห็นว่าในช่วงหลังๆ ราฟาเริ่มจะใช้หอกคู่มากขึ้น และเริ่มทำประตูได้ดีขึ้น จากผลงานชนะรวด 3 นัดหลัง ยิงได้ถึง 7 ประตู โดยส่วนตัวคิดว่าปัญหาที่แท้จริงของลิเวอร์พูลอยู่ที่ปีก โดยเฉพาะปีกขวา หากมองถึงรูปเกมของลิเวอร์พูลจะเห็นว่าขาดการทำเกมทางริมเส้นที่มีประสิทธิภาพ หลายๆ เกมจะเห็นว่าราฟาลองให้นักเตะหลายคนมาเล่นปีกขวาทั้ง ซิสเซ่, ปงโกลล์, เจอร์ราด แต่ก็ไม่ได้ผลดีมากนัก เพราะไม่ใช่ธรรมชาติของแต่ละคน ตัวใหม่อย่างเซนเด้นก็ดูเหมือนยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับลิเวอร์พูลได้ ส่วนคีเวลล์ก็มีปัญหาบาดเจ็บมาตลอด จะมีก็เพียงรีเซ่ที่ดูจะพอจะขัดตาทัพในตำแหน่งปีกซ้ายเท่านั้น แต่มันก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีนัก เนื่องจากรีเซ่น่าจะประจำการในตำแหน่งที่เหมาะกับเขามากกว่าอย่างแบ็คซ้าย
เมื่อขาดปีกไปก็ทำให้ความหลากหลายในการทำประตูลดลงไปอย่างมาก คู่ต่อสู้จับทางได้ง่ายขึ้น ราฟาเองก็เห็นถึงจุดนี้ และพยายามแก้ปัญหามาโดยตลอด ตอนนี้นั้นดูเหมือนเขาจะรอการกลับมาของคีเวลล์ ซึ่งถ้าปีกชาวออสซี่คนนี้สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ และมองถึงเซนเด้นที่น่าจะเริ่มปรับตัวได้ รวมถึงมาร์ค กอนซาเลสที่ราฟาอยากได้มากเหลือเกิน ปัญหาริมเส้นทางซ้ายก็คงจะหมดไป
ดังนั้นปัญหาจึงอยู่ที่ปีกขวา ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ลิเวอร์พูลเรียกได้อย่าเต็มปากว่าขาด ซิสเซ่, ปงโกลล์, เจอร์ราด รวมถึงการ์เซีย ไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าสามารถประจำการในตำแหน่งนี้ได้ และก็มีข่าวมาโดยตลอดว่าหงส์แดงจะซื้อผู้เล่นมาเสริมในตำแหน่งนี้ ทั้ง ซิเมา, โจอาคิน, ดาริโอ แซร์น่า หรืออ็อกเยน โกโรมัน ซึ่งดูแนวโน้มแล้วซิเมาน่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด ส่วนโจอาคินนั้นราฟาเองคงอยากได้มากที่สุด แต่ค่าตัวของเขาลิเวอร์พูลคงไม่จ่ายแน่
แต่ซิเมานั้นถือว่าเป็นปีกร่างเล็กที่มีชั้นเชิงและความเร็ว การที่มาเล่นในพรีเมียร์ของเขาอาจมีปัญหา เนื่องจากลักษณะบอลอังกฤษนั้นมีการเข้าบอลกันหนัก เล่นกันเร็ว (ตรงจุดนี้เองที่ทำให้การ์เซียไม่สามารถเล่นตำแหน่งนี้ได้) และตัวซิเมาเองอาจเจอปัญหาเรื่องการปะทะกันได้ ซึ่งดูแล้วโจอาคินน่าจะเหมาะกว่า ทั้งพละกำลังความแข็งแกร่งและการกระชากบอล สำหรับตัวเลือกอื่นๆ คงเป็นเพียงตัวเลือกหลังๆ กรณีที่วืดทั้งสองคนนี้เท่านั้น
นอกจากปีกแล้ว ตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟอาจเป็นปัญหาของหงส์แดงในอนาคต เนื่องจากยังไม่มีขุมกำลังสำรองพอจะทดแทนได้ มีเพียงคาร์ราเกอร์และฮูเปียเท่านั้น ซึ่งราฟาเองก็พยายามมองหามาตลอดตั้งแต่ก่อนปิดฤดูกาล แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่สามารถหาได้ ล่าสุดได้ไปมองดาเนียล แอ๊กเกอร์ ดาวรุ่งทีมชาติเดนมาร์ก ของ บรอนด์บี้ คงต้องลองมาดูกันว่าราฟาจะแก้ปัญหาของทีมอย่างไร จะคว้าใครเข้ามาเติมเต็มทีมในช่วงเปิดตลาดซื้อขายรอบสอง ซึ่งก็คงต้องรีบแก้ปัญหาต่างๆ โดยเร็วหากหวังลุ้นแชมป์กับเชลซี ที่ตอนนี้มีแต้มห่างถึง 15 แต้ม !!!!
Click for use Graphics comment
เป็นเรื่อง ลิเวอร์พูลอาจต้องเสี่ยงขาย Torres จากการเปิดเผยของสื่อ
เบนิเตซ ยิ้มร่า เจิด พ้นผิด คาดสมทบทีม 2 ส.ค.
รายชื่อนักเตะ Liverpool 2008-2009
วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
สนามปัจจุบันของสโมสรคือ แอนฟิลด์ มีความจุ 45,362 คน ในขณะเดียวสนามใหม่กำลังถูกวางแผนก่อสร้างในชื่อ สนามสแตนลีย์พาร์ก ความจุประมาณ 60,000 อยู่ในระหว่างการเจรจาระหว่างเจ้าของและทางเอชเคเอส สำนักงานสถาปนิกอเมริก
ประวัติสโมสร
จอห์น โฮลดิ้ง นักธุรกิจชาวเมืองลิเวอร์พูลได้เช่าพื้นที่บริเวณ แอนฟิลด์ โรด เพื่อใช้สร้างสนามฟุตบอล และเมื่อสร้างเสร็จได้ให้สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เช่าเป็นสนามแข่ง และเมื่อทีมเอฟเวอร์ตันได้เข้าสู่สมาชิกฟุตบอลลีก จอห์น โฮลดิ้ง พยายามจะเข้าไปบริหารงานในทีมเอฟเวอร์ตันและได้เพิ่มค่าเช่าสนามที่ทีมได้เช่าอยู่ ฝ่ายกลุ่มบริหารของเอฟเวอร์ตันจึงยกเลิกสัญญาเช่าสนาม และทีมเอฟเวอร์ตันได้ย้ายสนามไปอีกฝากของสวนสาธารณะ สแตนลี่ย์พาร์ค เพื่อไปสร้างสนามเป็นของตัวเองโดยใช้ชื่อสนามว่า กูดีสันพาร์ก ดังนั้น จอห์น โฮลดิ้ง จึงต้องการสร้างทีมฟุตบอลขึ้นมา และ จอห์น โฮลดิ้ง จึงไปชวนเพื่อนสนิทของเขาชื่อ จอห์น แมคเคนน่า มาทำหน้าที่ประธานสโมสรและได้ตั้งชื่อทีมฟุตบอลนี้ว่า Liverpool Football Club
ยุคก่อตั้งสโมสร
หลังจากที่สโมสรลิเวอร์พูลก่อตั้งได้ไม่นาน ได้จัดการแข่งขัดนัดอุ่นเครื่อง ซึ่งเป็นการลงสนามนัดแรกของทีมลิเวอร์พูลกับทีมร็อตเตอร์แฮม ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมลิเวอร์พูลชนะไปด้วยผลการแข่งขัน 7-1 และลิเวอร์พูล ได้ลงแข่งขันฟุตบอลลีกของแคว้น แลงคาเชียร์ ปรากฏว่าลิเวอร์พูลลงแข่งทั้งหมด 22 นัด ชนะ 17 นัด และได้แชมป์ไปครอง ส่งผลให้ทางสโมสรสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกซึ่งได้รับการยอมรับและถูกคัดเลือกให้ลงเล่นในดีวิชั่น 2 ในฤดูกาล 1893-1894 สโมสรจึงได้เลือกสัญลักษณ์ของทีมเป็น นกลิเวอร์เบิร์ด (Liverbird) ซึ่งเป็นนกแถบทะเลไอริช บริเวณแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ โดยที่ปากนกคาบใบไม้ไว้ ทีมลิเวอร์พูลได้ลงทำการแข่งขันอย่างเป็นทางในฟุตบอลลีก ดิวิชั่น 2 ในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1893 โดยทีมลิเวอร์พูลออกไปเยือนทีมมิดเดิลสโบรซ์ ไอโรโนโปลิส และทีมลิเวอร์พูลสามารถได้แชมป์มาครองโดยที่ไม่แพ้ทีมใดเลยตลอดทั้งฤดูกาล (ทั้งหมด 28 นัด) แต่การคว้าแชมป์ลีกดิวิชั่น 2 ในตอนนั้นยังไม่ได้เลื่อนชั้นโดยทันที ต้องไปแข่งนัดชิงดำกับทีมอันดับสองก่อน โดยทีมอันดับสองในขณะนั้นคือ ทีมนิวตัน ฮีธ (ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปัจจุบัน) และลงแข่งขันที่สนามของทีมแบล็คเบิร์น ซึ่งทีมลิเวอร์พูลเอาชนะทีมนิวตัน ฮีธไปด้วยผล 2-0 และได้เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ในที่สุด
ที่มาของ The Kop
เดอะ ค็อป เป็นชื่อที่ใช้เรียกตามชื่อของเนินเขาแห่งหนึ่งใน นาทาล ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งคนท้องถิ่นจะรู้จักกันในนาม สปิออน ค็อป โดยเกิดเหตุการณ์การทำสงครามบัวร์ขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1900 อังกฤษได้ส่งทหารไปกว่า 300 นาย โดยส่วนใหญ่เป็นชาวเมืองลิเวอร์พูล แต่แล้วในสงครามนั้นเกิดเหตุการณ์น่าเศร้าขึ้นคือ อังกฤษได้เสียทหารไปเกินกว่าครึ่ง เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น นักข่าวกีฬาของหนังสือพิมพ์ลิเวอร์พูลเดลี่โพสต์ ชื่อ เออร์เนสต์ เอ็ดเวิร์ตส์ จึงเสนอชื่อ สปิออน ค็อป ตามชื่อของเนินเขาลูกนั้น เป็นชื่อของอัฒจันทร์หลังประตูในการสร้างสนามใหม่ขึ้นมา เพื่อเป็นเกียรติในความกล้าหาญของทหารอังกฤษทั้ง 300 นาย ซึ่งต่อมาอัฒจันทร์แห่งนี้ได้กลายอัฒจันทร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกของฟุตบอลแห่งหนึ่ง. ในปี ค.ศ. 1928 ได้มีการต่อเติมอัฒจันทร์แห่งนี้ใหม่ และเมื่อใดเมื่อมีการแข่งขันฟุตบอลของทีมลิเวอร์พูลขึ้น คนที่ไปดูการแข่งขันของทีมบนอัฒจันทร์จะเรียกตัวเองว่า เดอะ ค็อป (The Kop) และแล้วจากเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่สนามฮิลส์โบโร่ ในปี ค.ศ. 1989 ซึ่งเกิดการถล่มของอัฒจันทร์ขึ้น ในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ กับ นอร์ทติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 96 คน จึงมีคำสั่งให้ทุกสนามเปลี่ยนจากอัฒจันทร์ยืนเป็นแบบนั่งทั้งหมด และนั่นเป็นการปิดฉากขออัฒจันทร์ สปิออน ค็อป อัฒจันทร์แบบยืนที่มีความยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีอัฒจันทร์ใหม่ขึ้นมาและใช้ชื่อว่า นิว ค็อป ซึ่งความหมายต่าง ๆ ยังคงเหมือนเดิม แม้ชื่ออัฒจันทร์จะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม นิว ค็อป ยังคงมีกลิ่นอายของประวัติเหล่านั้นอยู่เต็มเปี่ยม
ฟุตบอลลีกดิวิชั่นหนึ่ง: 18
-1901, 1906, 1922, 1923, 1947, 1964, 1966, 1973, 1976, 1977, 1979, 1980, 1982, 1983, 1984, 1986, 1988, 1990
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป: 0
ฟุตบอลลีกดิวิชั่นสอง: 4
-1894, 1896, 1905, 1962
เอฟเอคัพ: 7
-1965, 1974, 1986, 1989, 1992, 2001, 2006
ลีกคัพ: 7
-1981, 1982, 1983, 1984, 1995, 2001, 2003
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก: 5
-1977, 1978, 1981, 1984, 2005
ยูฟ่าคัพ: 3
-1973, 1976, 2001
European Super Cup : 3
-1977, 2001, 2005
เอฟเอ ยูธคัพ
-แชมป์ ปี 1995-96 , 2005-06 , 2006-07
liverpoolfc.tv เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของทีมลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
ข่าวล่าสุดของลิเวอร์พูล จากสยามสปอร์ต
เว็บแฟนคลับ
hongmarnz.com เว็บหงส์แดงฮาร์ดคอร์ Together We Make It Better
hongneua.com - หงส์เหนือ ลิเวอร์พูลแฟนคลับ -
liverpool.in.th ลิเวอร์พูลประเทศไทย
liverpoolthailand.com ลิเวอร์พูลแฟนคลับ
redmachinethailand.com แฟนหงส์แดงในเมืองไทย
thekop.in.th เว็ปสาวกหงส์แดงพันธ์แท้ ในเมืองไทย (The Kop in Thailand)
wearethereds.com - Home Of The Kop Thailand -